ทางบ้านสอบถามกันเข้ามาเยอะมาก ว่าสั่งซื้อสินค้าจากจีน จากเว็บไหนดีคะ?
วันนี้ FMG ขอแนะนำ 3 เว็บหลักๆของจีนกันค่ะ

✅ www.alibaba.com
เน้นซื้อขายแบบ B2B สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าอุตสาหกรรม เครื่องจักรกล เครื่องใช้ไฟฟ้า
บ้านและสวน อุปกรณ์ต่างๆ อะไหล่ยานยนต์ เป็นต้น
และเนื่องจากผู้ขายเป็นโรงงาน อาจมีขั้นต่ำในการสั่งซื้อหรือสั่งผลิต แต่ถ้าโรงงานมีสต็อค 1 ชิ้นก็ซื้อได้

✅ www.taobao.com
เน้นขายปลีกในจีน สินค้าหลากหลาย แค่ 1 ชิ้นก็ซื้อได้ ราคาถูก แต่ต้องหาร้านที่ไว้ใจได้ มีโอกาสไม่ตรงปก
ควรหาซื้อสินค้าจากร้านที่มีรีวิวรูปสินค้าจริง

✅ www.1688.com
เน้นขายส่งในจีน ยิ่งซื้อเยอะ ยิ่งราคาถูก เหมาะกับพ่อค้าแม่ค้าที่ซื้อมาขายต่อเพื่อทำกำไร
แต่ต้องหาร้านที่ไว้ใจได้ มีโอกาสไม่ตรงปก ควรหาซื้อสินค้าจากร้านที่มีรีวิวรูปสินค้าจริง

บอกเลยว่าฮิตมาก ใครๆก็สั่งกัน นำมาขายต่อก็สร้างกำไรได้เยอะ หรือจะซื้อมาใช้เอง

เว็บจีนต้องซื้อขายกับต่างชาติทุกขั้นตอน บางท่านอาจมีอุปสรรคด้านภาษา และความกลัว
หรือบางท่านยังเป็นมือใหม่ เราสามารถช่วยคุณได้ ไม่ต้องเหนื่อยเอง ไม่ต้องเสี่ยงเอง ไม่ต้องเครียดเอง
หากสนใจสามารถฝาก FMG สั่งซื้อให้ได้เลย ตัวแทนสั่งซื้อและนำเข้าสินค้าจีนครบวงจร ใช้บริการง่ายมาก เพียงแค่ส่งลิงค์เว็บไซต์สินค้าและรูปสินค้า พร้อมแจ้งรายละเอียดและจำนวนที่ต้องการสั่ง

 

OEM ย่อมาจาก ย่อมาจากคำว่า Original Equipment Manufacturer หมายถึงโรงงานที่รับผลิตสินค้าให้ตรงความต้องการของลูกค้า เพื่อให้นำสินค้าที่ผลิตนั้นมาติดแบรนด์ของลูกค้าเอง หรือบางกรณีลูกค้าสามารถเลือกสินค้าที่โรงงานมีอยู่แล้ว แต่ให้โรงงานทำโลโก้ติดกับสินค้าได้เลย สรุปง่ายๆเลย OEM ก็คือการสร้างแบรนด์ให้กับสินค้า

ข้อดีของการทำสินค้า OEM 

  1. ต้นทุนค่าสินค้าต่ำ ส่วนมากการที่ลูกค้าจะสั่งทำ OEM ก็ต่อเมื่อมีการเคยสั่งตัวอย่างมาเพื่อดูคุณภาพแล้ว และเมื่อจะสั่งผลิตจริง จะสั่งจำนวนเยอะ เพื่อให้ราคาสินค้าถูกลง ทำให้ต้นทุนค่าสินค้านั้นต่ำกว่าเมื่อเทียบกับการซื้อปลีก
  2. ภาพลักษณ์ของสินค้าน่าเชื่อถือ เป็นธรรมดาเมื่อลูกค้าจะซื้อสินค้าซักชิ้น นอกเหนือจะคุณภาพสินค้า นั่นคือความน่าเชื่อถือของสินค้า เมื่อสินค้านั้นมีแบรนด์ของตัวเอง มีโลโก้ที่ชัดเจนจะทำให้สินค้ามีภาพลักษณ์ที่ดี และทำให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายกว่าเห็นสินค้าที่ไม่มีแบรนด์
  3. เงินลงทุนไม่สูง เพราะไม่ต้องลงทุนทำโรงงานเอง ไม่ต้องจ้างพนักงานสำหรับกระบวนกวนผลิต
  4. มีความคล่องตัวสูง สามารถย้ายโรงงานผลิตได้ตลอด หรืออาจจะสั่งทำ OEM จากหลายโรงงานเลยก็ได้ ไม่ต้องผูกมัดกับโรงงานใดโรงงานนึง
 

คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “ประเทศจีน” คือมหาอำนาจทางเศรษฐกิจและเป็นตลาดส่งออกเบอร์ต้นๆของโลก

สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่สนใจนำเข้าสินค้าจีน
คุณจะได้รับผลประโยชน์มากมายจากทางภาครัฐ เพราะจีนนั้นเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ดีกับไทยมาตลอด คุณจะไม่ต้องกังวลเรื่องการถูกกีดกันในนำเข้าสินค้าจีนแน่นอน

เหตุผลที่ทำไมเราต้องนำเข้าสินค้าจากจีน

  1. การนำเข้าสินค้าไม่ยุ่งยาก มีระบบเอื้อต่อการเติบโตของผู้ประกอบการ SMEs
  2. ต้นทุนสินค้าราคาต่ำ สามารถสั่งมาทำกำไรต่อได้
  3. มีสินค้าหลากหลาย สินค้ากระแส อีกทั้งยังสามารถสั่งผลิตได้ตามงบประมาณและความต้องการของคุณ
  4. สินค้าหลายๆประเภท สามารถลดหย่อนภาษีนำเข้าได้ 0% ผลจากข้อตกลงเขตการค้าเสรี อาเซียน-จีน

หากคุณกำลังมองหาบริษัทสั่งซื้อและนำเข้าสินค้าจากจีนที่ได้มาตรฐาน ขั้นตอนการทำงานง่ายๆไม่ซับซ้อน ขนส่งสินค้ารวดเร็ว ปลอดภัยถูกกฏหมายและมีอัตราค่าบริการที่สมเหตุสมผล ติดต่อเรา “FMG Trading Group”

เราขอเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนธุรกิจของคุณให้ไปต่อได้ ด้วยการทำให้ต้นทุนของคุณต่ำที่สุดด้วยทุกประสบการณ์ที่เรามี

บทความนี้ขอรวบรวมทักษะการขายที่คุณต้องมีและต้องฝึกฝนให้เฉียบคมอยู่เสมอ มาดูกันว่านักขายที่ยอดเยี่ยมจะต้องมีทักษะอะไรกันบ้าง

  1. การสื่อสารนอกจากจะต้องสื่อสารภาษาคนให้รู้เรื่องแล้ว ยังจำเป็นต้องเลือกใช้คำพูดในการสื่อสารที่ถูกกาละเทศะ น่าเชื่อถือ เข้ากับลูกค้าได้เป็นอย่างดี และยังต้องเก่งเรื่องการฟังจับใจความเพื่อแปลสิ่งที่ลูกค้าสื่อสารได้ดีอีกด้วย
  2. เชี่ยวชาญสินค้าขายอะไรก็ต้องรู้จริง ไม่กั๊กข้อมูล นักขายที่ไม่รู้เรื่องสินค้าย่อมขาดความน่าเชื่อถือ
  3. ดูแลลูกค้าบริการลูกค้าต้องดีทั้งก่อนขายและหลังขาย นอกจากเป็นหน้าที่แล้วยังต้องใส่ใจลูกค้าราวกับเป็นครอบครัวเดียวกัน
  4. แก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ทั้งเฉพาะหน้าและป้องกันปัญหา ไม่ว่าจะยากซักแค่ไหนก็ต้องช่วยลูกค้าให้ได้
  5. มีเข้าความใจธุรกิจต้องเข้าใจธุรกิจที่คุณกำลังทำหรือขายสินค้านั้นอยู่เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นคู่แข่ง คู่ค้า แนวโน้มทางธุรกิจ สภาพตลาด ฯลฯ
  6. สาธิตสินค้าเป็นนักขายที่สาธิตให้ลูกค้าดูอย่างเข้าใจไม่ได้ย่อมขายไม่ได้
  7. การเจรจาต่อรองไม่ว่าจะเป็นการเจรจากับลูกค้า เพื่อนร่วมงาน หัวหน้า ลูกน้อง นอกจากนี้ยังต้องเจรจาต่อรองให้ทุกฝ่าย วินวิน
  8. หาลูกค้าเก่งเป็นทักษะที่นักขายทุกคนต้องจมูกไวและรู้ว่าลูกค้าที่ซื้อได้ มีความเหมาะสม นั้นอยู่ที่ไหน
  9. การร่วมมือนักขายที่เก่งจะต้องมีสกิลด้านความร่วมมือทั้งกับลูกค้า คู่ค้า เพื่อนร่วมงานได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับเพื่อนร่วมงาน เก่งอยู่คนเดียวแต่ทีมงานไม่สนับสนุนก็ไปไม่รอดครับ
  10. ใช้โซเชี่ยลมีเดียหาลูกค้าเป็นยุคออนไลน์ 100% ทำให้การขายเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะการหาลูกค้าใหม่ ยุคนี้คุณต้องใช้ลิ้งก์อินหรือเฟซบุ้คในการหาและทำนัดลูกค้าเป็นได้แล้ว การเอาแต่โทรหรือพึ่งพาคอนเนคชั่นนั้นช้าเกินไป
  11. การสร้างความสัมพันธ์ขายเสร็จแล้วหายหัวนั้นจะทำให้คุณขายได้แค่ครั้งเดียว แต่การสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับลูกค้าด้วยการติดตามงาน ติดต่อสอบถาม หมั่นดูแลหลังการขาย จะทำให้พวกเขาซื้อคุณตลอดไป
  12. การติดตามงานติดตามงานอย่างสม่ำเสมอและมีไอเดียที่สดใหม่จะทำให้ปิดการขายได้ง่ายขึ้นมาก และแสดงให้เห็นถึงการเป็นนักขายมืออาชีพ
  13. ทักษะปิดการขายยุคนี้ปิดแบบโม้หรือโน้มน้าวอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องมีข้อมูลที่น่าเชื่อถือและทำให้ลูกค้าสบายใจกับตัดสินใจด้วยตนเองให้ได้ถึงจะเป็นการปิดการขายที่มีประสิทธิภาพ
  14. การปรับตัวเอาแค่ช่วงโควิดที่เจอลูกค้าไม่ได้ การปรับตัวให้สามารถทำยอดขายได้หรือไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ไหน ใช้เครื่องมืออะไร เศรษฐกิจจะไม่ดียังไง ก็ยังสามารถขายได้
  15. การฟังอย่างจับใจความนักฟังที่ดีและวิเคราะห์ได้ว่าลูกค้าต้องการอะไรต่างหากถึงจะเป็นนักขายที่ยอดเยี่ยมมากกว่านักขายที่เอาแต่พูดเก่งแต่ไม่ค่อยฟังลูกค้า

อ้างอิงจาก https://www.sales100million.com/single-post/the-best-skills-set-for-sales-to-improve/

มีบริษัทจำนวนมากมายหลายแห่งทุ่มงบกว่าล้านบาทไปกับการโฆษณา เพื่อพยายามที่จะดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย แต่บางครั้งแบรนด์เหล่านั้นกลับถูกเพิกเฉย เพราะมีลูกค้าจำนวนไม่ถึง 10% ที่ยังคงจงรักภักดีกับแบรนด์เดิมอยู่

ในทางกลับกันก็มีบางบริษัทที่แทบจะไม่ได้จ่ายเงินเพื่อทำการตลาดเลย แต่กระนั้นพวกเขาก็ยังได้ใจจากลูกค้าไปเต็มๆ ยิ่งไปกว่านั้นลูกค้ากลุ่มนี้ยังเต็มใจบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสินค้า และแนะนำต่อให้กับคนรู้จัก ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการรับรู้ของแบรนด์ให้เพิ่มมากขึ้น โดยที่เจ้าของแบรนด์ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดเลยสักบาท

การส่งต่อข้อมูลจากบุคคลหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งหรือสิ่งที่เรียกว่า ปากต่อปาก เป็นหนทางหนึ่งที่ทรงพลังมากที่สุดในโลกธุรกิจทุกวันนี้ จากผลการสำรวจของนีลเส็นบริษัทที่ให้ข้อมูลและการประเมินผลชั้นนำของโลก บ่งชี้ว่าผู้บริโภคกว่า 92% เชื่อคำแนะนำจากเพื่อนและครอบครัวมากกว่าคำโฆษณา

ข้อดีอีกข้อหนึ่งของการตลาดแบบปากต่อปากคือ เป็นการคัดสรรผู้ฟังไปในตัว เพราะคนส่วนใหญ่มักจะแชร์ข้อมูลให้กับคนที่พวกเขาคิดว่ากำลังสนใจเรื่องนั้นๆ อยู่ อีกทั้งลูกค้าที่มาจากการบอกต่อ มีอัตราการใช้จ่ายเฉลี่ยมากขึ้นกว่า 20 – 50 % ซึ่งเป็นผลมาจากคำแนะนำแบบปากต่อปาก นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม การตลาดแบบปากต่อปากจึงมีพลังมากนัก โดยกุญแจสำคัญที่จะทำให้คนอยากบอกต่อนั้นคือ ต้องเข้าใจว่าอะไรเป็นแรงจูงใจให้ผู้คนอยากพูดถึงและแบ่งปันแบรนด์ของคุณให้คนอื่นได้รับรู้

วิธีทำให้ “ลูกค้าบอกต่อ” เพื่อเพิ่มยอดขายแบบง่ายๆ
  1. หาลูกค้าเกรดเอให้เจอก่อน ลูกค้าเกรดเอคือลูกค้าที่มีคุณสมบัติดังนี้– ซื้อคุณซ้ำอยู่บ่อยๆ หรือเป็นขาประจำ
    – ซื้อด้วยจำนวนที่เยอะ
    – ซื้อแล้วไม่ค่อยต่อ กำไรอยู่ครบ
    – ลูกค้าสนิทกับคุณ ถ้ามีลูกค้ากลุ่มนี้ในมือเยอะ คุณย่อมมีโอกาสสร้างลูกค้าบอกต่อได้ง่าย แต่ถ้าใครมีลูกค้าเกรดเอน้อย อาจเป็นเพราะว่าธุรกิจคุณมีปัญหาแล้วก็ได้
  2. ถามลูกค้าเกรดเอว่าช่วยแนะนำคนรู้จักให้คุณ เมื่อมั่นใจแล้วว่าลูกค้าที่คุณหาข้อมูลมาเป็นเกรดเอแน่ๆ คุณสามารถขอพวกเขาให้อ้างอิงหรือให้ข้อมูลติดต่อคนที่พวกเขารู้จักได้เลย วิธีการก็คือให้ขอเข้าพบลูกค้าหรือโทรไปคุยเรื่องงานหรือเรื่องราวดีๆ ข่าวดีก่อน จากนั้นค่อยเข้าเรื่องขอให้พวกเขาแนะนำบอกต่อ และจะดีมากถ้าคนที่คุณคุยมีอำนาจ มีเครือข่าย มีชื่อเสียง เพราะโอกาสที่พวกเขาจะรู้จักคนที่ซื้อคุณได้ก็มีเยอะเช่นกัน
  3. สร้างตัวตนในโลกของโซเชี่ยลมีเดีย จงใช้โซเชี่ยลให้เป็นและมองว่ามันไม่ใช่โลกส่วนตัวของคุณอีกต่อไป แต่มันคือการทำให้ตัวตนทั้งโลกจริงและโลกออนไลน์นั้นเหมือนกัน คุณจะต้องเน้นการนำเสนอผลงานความสำเร็จและเป็นเพื่อนกับลูกค้าในโซเชี่ยลให้มากเข้าไว้ โดยเฉพาะลูกค้าเกรดเอ บี

อ้างอิงจาก

  1. https://amarinacademy.com/3002/marketing/word-mouth/
  2. https://www.sales100million.com/single-post/how-to-do-the-referral-customer/

ว่ากันด้วยเรื่องของ Shipping Mark/รหัสข้างลัง

Shipping Mark คืออะไร ?
  • Shipping mark ก็คือ ข้อความ สัญลักษณ์ หรือตัวเลข ที่ระบุไว้บนแต่ละหีบห่อของสินค้า
  • Shipping Mark มีไว้เพื่อแสดงว่าสินค้านั้นเป็นของตามใบตราส่งใดหรือของใคร และเพื่อให้กระบวนการขนส่งในทุก ๆ ขั้นตอนเป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว เรียบร้อย ปลอดภัย ไม่มีความสับสน ล่าช้า เกิดขึ้นระหว่างต้นทางและปลายทางรวมไปถึงความปลอดภัยของสินค้าระหว่างขนส่ง

ดังนั้น แต่ละหีบห่อของสินค้า จึงควรมีเครื่องหมายและเลขหมายหีบห่อ (Shipping Mark) อย่างถูกต้องและครบถ้วน

** ก่อนส่งของของอย่าลืมเช็คกับทางผู้ขายดีๆนะคะ

ความหมาย วันเช็งเม้ง

ชิงหมิง (qing-ming) หรือ เชงเม้ง หรือ เช็งเม้ง เป็นชื่อของสารท (1 ปี มี 24 สารท) โดยคำว่า “เช็ง” หมายถึง สะอาด บริสุทธิ์ และคำว่า “เม้ง” หมายถึง สว่าง เมื่อนำคำว่า “เช็งเม้ง” มารวมกันแล้วหมายความถึง ช่วงเวลาแห่งความแจ่มใส รื่นรมย์
วันเช็งเม้ง หรือ เทศกาลเช็งเม้ง เป็นการทำพิธีเซ่นไหว้และปัดกวาดหลุมศพบรรพบุรุษ โดยถือว่าเป็นประเพณีที่มีความเกี่ยวเนื่องกับพิธีกรรมการฌาปนกิจ เนื่องจากตามบันทึกทางประวัติศาสตร์เคยกล่าวไว้ว่า “สร้างหลุมศพไม่ต้องสร้างเนินสุสาน” ดังนั้น จึงไม่เคยมีบันทึกถึงการทำความสะอาดเนินสุสานมาก่อน

แต่ในเวลาต่อมา เมื่อเริ่มมีความนิยมสร้างหลุมศพโดยสร้างเนินสุสานด้วยในภายหลัง จึงทำให้ประเพณีการเซ่นไหว้ที่สุสานเกิดขึ้น จนกลายเป็นประเพณีที่ละเว้นไม่ได้มาจนถึงปัจจุบันนี้

วันไหว้เช็งเม้ง 2564 ตรงกับวันไหน

เมื่อเปิดปฏิทินจีนปี 2564 จะพบว่า วันเช็งเม้ง (清明) ตรงกับวันที่ 4 เมษายน 2564 ซึ่งเป็นวันไหว้วันสุดท้ายของเทศกาลนี้ แต่วันที่เริ่มไหว้ คือวันที่ 20 มีนาคม 2564 หรือที่เรียกว่า สารทชุงฮุง (春分) แต่ละครอบครัวจึงนัดหมายรวมญาติกันไปไหว้บรรพบุรุษที่สุสาน ตามความเชื่อของชาวไทยเชื้อสายจีนคำว่า “เช็งเม้ง” มีความหมายว่า ความสะอาด บริสุทธิ์ และแสงสว่าง ชาวไทยเชื้อสายจีนจะเดินทางไปที่สุสานเพื่อเตรียมไหว้ในช่วงเวลาไม่เกิน 10.00 น. โดยเริ่มจากการทำความสะอาดฮวงซุ้ย (สุสาน) และจัดเตรียมอาหาร ของไหว้อื่นๆ

ตำนานการเกิดวันเช็งเม้ง

ในยุคชุนชิว องค์ชายฉงเอ่อ แห่งแคว้นจิ้น หนีภัยออกนอกแคว้นไปมีชีวิตตกระกำลำบากนอกเมือง โดยมีเจี้ยจื่อทุยติดตามไปดูแลรับใช้

เจี้ยจื่อทุยมีจิตใจเมตตาถึงขนาดเชือดเนื้อที่ขาของเขาเป็นอาหารให้องค์ชายเสวยเพื่อประทังชีวิต ภายหลังเมื่อองค์ชายฉงเอ่อเสด็จกลับเข้าแคว้นและได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองแคว้น นาม จิ้นเหวินกง และได้สถาปนาตอบแทนขุนนางทุกคนที่เคยให้ความช่วยเหลือพระองค์ แต่ลืมเจี้ยจื่อทุยไป นานวันเข้าจึงมีคนเตือนถึงบุญคุณเจี้ยจื่อทุย จิ้นเหวินกงเพิ่งนึกขึ้นได้ จึงต้องการตอบแทนบุญคุณเจี้ยจื่อทุย โดยจัดหาบ้านให้เขาและมารดาให้เข้ามาอยู่อย่างสุขสบายในเมือง แต่ทว่าเจี้ยจื่อทุยปฏิเสธ

จิ้นเหวินกงได้คิดแผนเผาภูเขา โดยหวังว่าเจี้ยจื่อทุยจะพามารดาออกมาจากบ้าน แต่ผลสุดท้ายกลับไม่เป็นไปอย่างที่คิด สองแม่ลูกกลับต้องเสียชีวิตในกองเพลิง ดังนั้น เพื่อเป็นการรำลึกถึงเจี้ยจื่อทุย จิ้นเหวินกงจึงมีคำสั่งให้วันนี้ของทุกปี ห้ามไม่ให้มีการก่อไฟ และให้รับประทานแต่อาหารสด ๆ และเย็น ๆ จนกลายเป็นที่มาของเทศกาลวันกินอาหารเย็น หรือ เทศกาลหันสือเจี๋ย ซึ่งเป็นวันสุกดิบก่อนวันเช็งเม้ง 1 วัน

เนื่องจากคนโบราณนิยมถือปฏิบัติกิจกรรมตามประเพณีวันหันสือเจี๋ยต่อเนื่องไปจนถึงวันเช็งเม้ง นานวันเข้าเทศกาลทั้งสองก็รวมเป็นวันเช็งเม้งวันเดียว การไหว้เจี้ยจื่อทุยจึงค่อย ๆ เปลี่ยนมาเป็นการไปเซ่นไหว้บรรพบุรุษแทน

อย่างไรก็ดี แม้ว่าปัจจุบันรูปแบบการไหว้วันเช็งเม้งของชาวจีนในแต่ละพื้นที่จะต่างกันออกไป แต่เชื่อว่า ความหมายของ “วันเช็งเม้ง” ยังคงไว้ในเรื่องของการรำลึกถึงบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว อีกทั้งยังเป็นการสร้างความตระหนักรู้แก่ลูกหลานรุ่นหลังให้เห็นถึงประวัติและคุณงามความดีของบรรพบุรุษที่ทำให้ลูกหลานมีชีวิตที่ดีเช่นทุกวันนี้